รหัสสินค้า | SKU-00073 |
หมวดหมู่ | กล้าไม้เมืองหนาว |
ราคา | 150.00 บาท |
น้ำหนัก | 500 กรัม |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 5 ม.ค. 2557 |
อัพเดทล่าสุด | 30 มิ.ย. 2560 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | 1 ต้น |
ลักษณะทั่วไป : อะโวคาโดเป็นไม้ผลยืนต้นที่ไม่ผลัดใบ มีใบเขียวตลอดปี ผลผลิตสามารถรับประทานสด และแปรรูปนำไปสกัดเป็นน้ำมัน เนื่องจากมีพันธุ์ที่หลากหลายมาก จึงมีผลผลิตเกือบตลอดปี พันธุ์ที่สำคัญได้แก่พันธุ์ Peterson, Reuhle, Buccanear, Booth 7, Booth 8, Hall และHass
การเตรียมแปลงปลูก
โดยทั่วไปการปลูกอะโวคาโดจะใช้ระยะปลูกระหว่างต้นและระหว่างแถวประมาณ 8-12 เมตร การเตรียมหลุมปลูกควรมีความกว้างยาว 80 เซนติเมตร ลึกประมาณ 80 เซนติเมตร ผสมปุ๋ยคอกประมาณ 1-2 บุ้งกี๋ คลุกเคล้ากับดินที่ขุดขึ้นมาแล้วใส่ลงไปในหลุม เตรียมไม้ปักผูกยึดต้นกันลมโยก เตรียมวัสดุคลุมผิวหน้าดินไว้ซึ่งอาจใช้ฟาง เศษหญ้าแห้ง แกลบ ขี้กบ ขี้เลื่อย หรือเปลือกถั่วก็ได้ อะโวคาโดสามารถปลูกได้ทุกฤดูถ้ามีน้ำเพียงพอ ในประเทศไทยนิยมปลูกในช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการให้น้ำ เพราะมีน้ำฝนตกลงมาช่วย แต่ถ้าฝนตกชุกมากต้องระมัดระวังไม่ให้น้ำขัง
การใส่ปุ๋ย
หลังจากปลูกอะโวคาโดได้ 1 เดือน จะใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์เพิ่มให้กับต้นอะโวคาโด โดยใส่ไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมอัตราส่วน 3:1:1 ทั้งนี้อาจให้โดยใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ผสมกับยูเรีย (46-0-0) อัตราส่วน 1:1 คลุกเคล้ากันให้ดีแล้วใส่ต้นละ 200 กรัม แบ่งใส่ประมาณ 3 ครั้งต่อปี ทุก 3 เดือน ปีที่ 2 จะใส่ปุ๋ยผสมดังกล่าวข้างต้นในอัตรา 300 กรัม แบ่งใส่ประมาณ 4 ครั้งต่อปี เมื่อต้นอะโวคาโดอายุได้ 3 ปี จะเริ่มให้ผลผลิต ปริมาณการใส่ปุ๋ยต่อต้นจะเพิ่มขึ้นตามการให้ผล และปุ๋ยที่ใช้ควรเปลี่ยนไปดังนี้ ในระยะต้นปีที่ 3 จะใส่ปุ๋ยเหมือนปีที่ 2 แต่ปริมาณปุ๋ยเพิ่มขึ้นเป็นต้นละ 400 กรัม ใส่ 2 ครั้งในช่วงต้นฤดูฝนและกลางฤดูฝน พอถึงปลายฤดูฝนราวๆเดือนตุลาคม จะเปลี่ยนเป็นปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสหรือโพแทสเซียมสูง เช่น 8-24-24 หรือ 9-24-24 ในดินร่วนปนทรายหรือดินทราย ส่วนดินร่วนเหนียวควรใช้ปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 500 กรัมต่อต้น เพื่อให้ต้นอะโวคาโดออกดอกดีและเมื่อติดผลแล้วจึงใส่ปุ๋ยอัตราส่วน 3:1:1 ใหม่ เพื่อให้ผลเจริญเติบโตดีและติดผลได้มากโดยอาจใส่ยูเรียผสมปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตราส่วน 1:1 เพิ่มขึ้นอีกต้นละ 500 กรัม ในปีต่อๆไปอาจใช้วิธีวัดระยะจากโคนต้นไปยังชายพุ่มเป็นเมตร ซึ่งจะเท่ากับจำนวนกิโกกรัมของปุ๋ยที่ใส่ให้ในแต่ละปีก็ได้ ควรมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ให้กับต้นอะโวคาโดทุกปี โดยใช้วิธีหว่านคลุมต้นและปล่อยให้ย่อยสลายเอง
การให้น้ำ
ในระยะที่ปลูกอะโวคาโดใหม่ๆ ควรให้น้ำแก่ต้นอะโวคาโด เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตและมีรากแผ่กระจายลงทางลึกและทางกว้าง ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอให้ดินชุ่มแต่อย่าให้น้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่าและต้นตาย ต้นอะโวคาโดปลูกใหม่ต้องการน้ำวันละประมาณ 15 ลิตรต่อต้น ถ้าให้เว้นวันอาจให้ครั้งละ 30 ลิตรต่อต้น เมื่อต้นใหญ่ก็ต้องการปริมาณน้ำมากขึ้น หรืออาจเลือกวิธีการให้น้ำเป็นระบบน้ำหยดหรือมินิสปริงเกอร์บริเวณโคนต้นก็ได้ แล้วแต่ละพื้นที่ปลูกและเงินลงทุน เมื่อต้นอะโวคาโดถึงระยะที่จะออกดอกควรงดให้น้ำ แต่โดยปกติแล้วเป็นช่วงที่สิ้นสุดฤดูฝนและเข้าฤดูหนาวแล้วและเมื่อเกิดตาดอกที่ยอดซึ่งจะสังเกตช่อดอกจะเริ่มเจริญออกมาบ้างแล้วจึงเริ่มให้น้ำใหม่
การเก็บเกี่ยว
ก่อนการเก็บเกี่ยวอะโวคาโดต้องตรวจสอบว่าผลแก่เก็บเกี่ยวได้หรือไม่ โดยพิจารณาถึงระยะเวลาที่เก็บเกี่ยวของอะโวคาโดแต่ละพันธุ์นั้นๆ จากนั้นทดลองเก็บผลบนต้นในระดับต่างๆประมาณ 6-8 ผลเพื่อผ่าดูเยื่อหุ้มเมล็ด หากเยื่อหุ้มเมล็ดเป็นสีน้ำตาลทั้งหมดก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ นอกจากนี้ควรพิจารณาลักษณะภายนอกของผลเพื่อให้มั่นใจว่าผลแก่แล้ว เนื่องจากบางครั้งในต้นเดียวกันอาจมีการออกดอก 2 ชุด ทำให้อายุของผลไม่เท่ากัน
ในการเก็บเกี่ยวต้องให้มีขั้วผลติดอยู่กับผล หากขั้วผลหลุดออกจากผลจะทำให้ผลเสียหายได้ง่ายขณะบ่มให้สุก วิธีการเก็บเกี่ยวทำได้โดยเด็ดหรือใช้กรรไกรตัดขั้วผลหลุดออกจากกิ่ง อาจใช้บันไดปีนขึ้นไปเก็บหรือใช้ตะกร้อที่มีใบมีดตัดขั้ว สอยให้ติดขั้วหรือใช้กรรไกรด้ามยาวที่มีที่หนีบขั้วผลไว้ ไม่ให้ผลตกเสียหาย ควรระมัดระวังไม่ให้ผิวผลเสียหาย เมื่อเก็บแล้วให้ใส่ลงในภาชนะที่รองด้วยกระดาษหรือฟองน้ำที่ป้องกันความเสียหายได้ นำไปคัดแยกเอาผลที่ไม่ได้คุณภาพตามที่กำหนดออก ตัดขั้วผลให้สั้นลงเหลือเฉพาะส่วน
1.โรคของอะโวคาโด
1.1 โรครากเน่า
1.2 โรคจุดดำหรือโรคแอนแทรคโนส
1.3 โรคแคงเกอร์
1.4 โรคใบจุดจากเชื้อสาหร่าย
2. แมลงศัตรูของอะโวคาโด
2.1 ด้วงงวงกัดกินใบ
2.2 หนอนผีเสื้อ
การป้องกันกำจัด
1. ฉีดพ่นสารเคมีทำลายหนอน โดยใช้คาร์บาริล 85 เช่น เอส-85 หรือเซฟวิน-85 อัตรา 30-45 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร ควรกำจัดในระยะเวลาต้นๆของหนอนจะได้ผลดี
2. จับดักแด้เผาไฟ
3. จับตัวแก่ทำลาย
ลูกค้าสามารถชำระเงิินได้ทันที หลังจากได้รับการสรุปยอดจากอีเมล์ของทางร้าน สามารถชำระเงินได้
ตามบัญชีธนาคารตามด้านล่างนี้ครับ หรือสามารถใช้บริการเก็บเงินปลายทางได้
ทางร้านจะเก็บสินค้าไว้ให้ 7 วันถ้าเกิน 7 วันถือว่าท่านยกเลิกการซื้อนะครับ หลังจากโอนเงินแล้วลูกค้าสามารถแจ้งการชำระเงินได้ที่ อีเมล์
practhaya@gmail.com หรือ sms 084-4884581 Line id: @payuseedsshop ได้ตลอด 24 ชม. โดยแจ้งชื่อ-นามสกุล ธนาคาร
ที่โอนเงิน จำนวนเงิน วันเวลาที่โอนโดยประมาณ ทางร้านจะได้ดำเนินการจัดส่งสินค้าให้ท่านต่อไป (ทางร้านจะจัดส่งของวันถัดไปหลังจากที่ได้รับแจ้งการโอนนะครับ)
หน้าที่เข้าชม | 1,395,796 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 734,649 ครั้ง |
เปิดร้าน | 6 พ.ย. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |